มูลนิธิช่วยนักเรียนที่ขาดแคลนในพระบรมราชินูปถัมภ์ ได้รับความอนุเคราะห์จากศิลปินผู้มีชื่อเสียงรับเป็นผู้แสดงละครประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น เรื่อง “ราโชมอน” ซึ่งหม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช ผู้ประพันธ์บทละครเป็นภาษาไทย รวมทั้งรับเป็นผู้อำนวยการแสดง กำกับการแสดงและร่วมแสดงละครดังกล่าวด้วย ณ หอประชุมมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ.2508 เพื่อหารายได้สมทบทุนมูลนิธิฯ และทางมูลนิธิฯ ได้กราบบังคมทูลเชิญพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถเสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรละครเรื่องนี้ ปรากฏว่าเป็นที่พอพระราชหฤทัยเป็นอันมาก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจึงทรงพระราชกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานเงินจำนวน 51,111 บาท เป็นทุนประเดิม และพระราชทานนามทุนนี้ว่า ทุน “นวฤกษ์” โดยให้มูลนิธิฯ เก็บแต่ดอกผลไปใช้เป็นทุนการศึกษาแก่นักเรียนที่ขาดแคลน ในการพระราชทานทุนนี้ ทรงมีกระแสพระราชดำรัสว่าเพื่อเป็นนิมิตอันดี ใคร่จะให้ผู้บริจาคโดยเสด็จพระราชกุศลครั้งนี้บริจาคเงินเป็นตัวเลขที่รวมกันแล้วได้ 9 หากผู้มีจิตศรัทธาท่านใดประสงค์จะบริจาคเงินโดยเสด็จพระราชกุศล เป็นจำนวนเงินอย่างน้อยตั้งแต่ 70,002 บาท ขึ้นไป ทรงพระราชกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ตั้งเป็นทุนสาขาตามแต่ผู้บริจาคประสงค์คือ “ทุนนวฤกษ์ สาขา ……”
ทุนการศึกษาพระราชทานนี้ มีความมุ่งหมายที่จะช่วยเหลือนักเรียนที่เป็นคนดี และมีความประพฤติดี แต่ขาดทุนทรัพย์ให้ได้ศึกษาต่อภายในประเทศจนกว่าจำสำเร็จการศึกษาในระดับการศึกษาตามสมควรแก่อัตภาพ
นับตั้งแต่มูลนิธิฯ ได้รับพระราชทานทุนจากสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นทุนประเดิมในปี พ.ศ. 2508 แล้วต่อมาในปี พ.ศ. 2511 สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานเงิน โดยเสด็จพระราชกุศล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 3 รอบ และยังได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าพระราชทานเพิ่มเติมอีก จำนวน 2 ครั้ง ในปี พ.ศ. 2514 และ 2515 นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณแก่มูลนิธิฯ และนักเรียน นิสิต นักศึกษา ที่ขาดแคลนเป็นอย่างยิ่ง นอกจากนั้นก็ได้มีผู้มีจิตศรัทธาทูลเกล้าฯ ถวายเงินโดยเสด็จพระราชกุศลสมทบทุนพระราชทาน “นวฤกษ์” อีกเป็นระยะๆ ซึ่งมูลนิธิฯ ได้นำเงินที่ได้รับพระราชทานรวมกับเงินที่ผู้มีจิตศรัทธาบริจาคโดยเสด็จพระราชกุศลไว้เก็บดอกผล เพื่อเป็นทุนการศึกษาแก่ นักเรียน นิสิต นักศึกษาที่ขาดแคลน ภายใต้การดูแลและคัดเลือกของคณะกรรมการบริหารทุนการศึกษาพระราชทานทุน “นวฤกษ์” ซึ่งได้ปฏิบัติต่อเนื่องกันมาจนถึงปัจจุบัน
วัตถุประสงค์
เพื่อช่วยเหลือนักเรียนที่มีความประพฤติดี ขยัน อดทน แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ให้มีโอกาสได้ศึกษาต่อ สายอาชีพ ระดับ ปวช. ปวส. และระดับปริญญาตรีตามสมควรแก่ศักยภาพของผู้เรียนโดยไม่มีข้อผูกมัดใดๆ
คุณสมบัติของผู้สมัครรับทุน ระดับอุดมศึกษา (ปริญญาตรี)
- เป็นนักเรียน ซึ่งได้รับการคัดเลือกขั้นต้นจากสถานศึกษาของผู้สมัครขอรับทุน
- กำลังเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีผลการเรียนในปีที่ผ่านมาไม่ต่ำกว่า 2.50
- มีฐานะยากจน สถานศึกษาเห็นว่าสมควรได้รับความช่วยเหลือ
- มีความประพฤติเรียบร้อย และมีความขยันหมั่นเพียร
- สุขภาพไม่เป็นอุปสรรคต่อการศึกษา
มูลค่าเงินทุน ปรับเพิ่มตั้งแต่ปีการศึกษา 2558 ดังนี้
- ระดับปริญญาตรี (คณะทั่วไป) ปีละ 8,000 บาท
- ระดับปริญญาตรี (คณะวิศวกรรมศาสตร์) ปีละ 10,000 บาท
- ระดับปริญญาตรี (คณะแพทยศาสตร์) ปีละ 10,000 บาท
มูลค่าเงินทุนอาจมากกว่าที่มูลนิธิฯ กำหนด ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความประสงค์ของผู้บริจาคที่ให้ทุนเป็นรายปี
การเพิกถอนสิทธิของผู้รับทุน
- ตาย
- ถูกให้ออกจากสถานศึกษา
- สละสิทธิ์ โดยมีหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษรจากผู้ปกครองหรือจากผู้บริหารสถานศึกษา
- คณะกรรมการบริหารทุนการศึกษาเห็นสมควรงดให้ทุน
- เมื่อมูลนิธิฯ ไม่ประสงค์จะให้ทุนต่อไป
การบริหารทุน
- มูลค่าของทุน อาจจะพิจารณาเปลี่ยนแปลงได้ หากคณะกรรมการบริหารมูลนิธิฯ พิจารณาเห็นสมควรเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสม
- คณะกรรมการบริหารทุนการศึกษา “นวฤกษ์” ขอความร่วมมือจากสถานศึกษา เมื่อนักเรียนได้รับทุนการศึกษาของมูลนิธิฯ แล้ว ดังนี้
ระดับอุดมศึกษา ผู้รับทุนต้องรายงานผลการเรียนต่อมูลนิธิฯ ทุกภาคเรียนอย่างเร็วที่สุด หรือจะส่งผ่านให้ทางสถานศึกษาแจ้งมูลนิธิฯ ก็ได้
การเบิกจ่ายเงินทุน
มูลนิธิฯ จะแบ่งจ่ายเงินทุนการศึกษาปีละ 2 ครั้ง ภาคเรียนที่ 1 เดือน มิถุนายน ภาคเรียนที่ 2 เดือนพฤศจิกายน ของทุกปี ตามมูลค่าของทุนที่ผู้รับทุนได้รับ โดยจัดส่งให้ผู้บริหารสถานศึกษาที่ผู้รับทุนศึกษาอยู่ โดยมีเงื่อนไขว่ามูลนิธิฯ จะไม่จัดส่งเงินทุนการศึกษาภาคเรียนต่อไปจนกว่าจะได้รับผลการเรียนของผู้รับทุนในภาคเรียนที่ผ่านมา
**มูลนิธิฯ จะใช้ระเบียบทุนการศึกษานี้ตั้งแต่ปีการศึกษา 2560 เป็นต้นไป